pimsyshop

pimsyshop
เครื่องประดับแฟชั่น ราคาถูกสุดๆ 39 บาท

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

น้องสาวของผึ้งกับโยเกิร์ตบัวหิมะ

ปกติน้องสาวของผึ้งก็เป็นโรคภูมิแพ้เหมือนกับผึ้งและแม่ แต่จะเป็นหนักกว่าในเวลาตอนเช้า คือทุกเช้าตอนเข้าห้องน้ำ น้องสาวผึ้งจะมีอาการไอ จาม เสียงดังมาก ตลอดเวลาที่อาบน้ำ ก็ไอ จาม อยู่อย่างนั้นจนผึ้งกลัวว่าเจ้าลูกชายจอมแสบของผึ้งจะตื่น แต่ช่วงหลังมานี่ตั้งแต่ที่น้องสาวได้กินโยเกิร์ตที่ผึ้งกรองเก็บไว้ในตู้เย็น ก็ไม่ได้ยินเสียงไอจามตอนอยู่ห้องน้ำอีกเลย ซึ่งน้องสาวผึ้งก็ไม่รู้ตัว ผึ้งเองก็ยังไม่บอกเค้านะคะว่าเจ้าโยเกิร์ตตัวนี้ช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้ เก็บเงียบเอาไว้คนเดียวก่อนแล้วคอยสังเกตน้องสาวไปเรื่อยๆ จนแน่ใจแล้วว่าอาการของน้องสาวลดลงจริงๆ ผึ้งจึงได้ลองถามเค้าดู เค้าก็บอกว่า "เออ ว่ะ อาการหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้เลยเนี่ย" "มันช่วยเรื่องภูมิแพ้ด้วยเหรอ" ผึ้งก็บอก "อืม ช่วยได้ แต่ตอนแรกยังไม่บอกเพราะไม่อยากให้คิดไปเองว่ามันช่วยได้" แต่ก็ไม่ได้หาย 100% นะคะ แค่ช่วยให้ดีขึ้นได้สัก 80% ค่ะ สำหรับผึ้งก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เจ้าเป๋าตุงกับน้ำหมักเอ็นไซม์และโยเกิร์ตคีเฟอร์


เจ้าเป๋าตุง สุนัขพันธุ์ชิสุห์ผสม ปัจจุบันอายุ 3 ปี มีโรคประจำตัว เป็นโรคตับ โรคเลือดจาง พยาธิในเลือด อันเนื่องมาจากเห็บหมัด เป็นหมาที่กินยายากมากๆๆๆๆ ตามป้อนลำบากเพราะเค้าจะบ้วนยาเม็ดเก่ง ต้องคอยตำเป็นผงแล้วตามป้อน พอช่วงไหนไม่ได้ป้อนยา อาการก็จะกำเริบ โดยมีผื่นแดงๆขึ้นที่ท้อง ตาแดงๆ ซึ่งเป็นอาการของพยาธิในเลือด และเลือดจาง 



พอได้รู้จักกับการหมักน้ำเอ็นไซม์ และมีคนเคยนำมาผสมน้ำให้สุนัขกิน แล้วอาการป่วยดีขึ้น ผึ้งก็เลยเอาบ้าง เอาน้ำเอ็นไซม์ที่ผึ้งและคนในบ้านหมักกินกันเองอยู่แล้ว มาหยดผสมน้ำให้เป๋าตุงกิน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ไม่ต้องกินยาอีกเลย และอาการก็ไม่กำเริบมานานมากแล้ว เราเลยสบายหน่อย สบายตรงที่ไม่ต้องมานั่งป้อนยา และสบายกระเป๋าเพราะยาแพงมาก 

ตอนนี้ผึ้งก็ได้ลองให้เป๋าตุงกินโยเกิร์ตคีเฟอร์ ซึ่งเค้าชอบมากๆๆๆ ขอกินทุกวันเลย เท่าที่หาข้อมูลดู พบว่าโยเกิร์ตคีเฟอร์ช่วยเรื่องโรคตับได้ดีมาก เราก็เลยคิดว่า ขนาดคนกินยังช่วยเรื่องตับได้ ถ้าให้หมากินก็ต้องช่วยได้เหมือนกันสิ นี่ก็กินมาเป็นอาทิตย์แล้ว ผลที่ได้ตอนนี้รู้สึกว่าเค้าจะหิวเก่งขึ้นมาก ปกติเป็นหมากินอาหารยาก ตอนนี้กินเก่งขึ้นเยอะเลย แต่ผลเรื่องอื่นคงต้องรอดูต่อไป แล้วจะมาอัพเดทอีกทีนะคะ

วิธีเลี้ยงบัวหิมะ(คีเฟอร์น้ำ)


วิธีเลี้ยงคีเฟอร์น้ำง่ายมากค่ะ และประหยัดกว่าการเลี้ยงคีเฟอร์นมมากค่ะ 




หน้าตาของคีเฟอร์น้ำที่ผึ้งเลี้ยงค่ะ ผึ้งสั่งจาก ebay มาเลยค่ะ เพราะลองเอาคีเฟอร์นมมาปรับดูแล้วไม่รอดค่ะ ตายเรียบ เลยสั่งคีเฟอร์น้ำมาโดยเฉพาะ
ขั้นตอนแรกก็เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปในโถ จะใช้น้ำตาลทรายขาวก็ได้ แต่มันมีสารฟอกขาวผึ้งเลยไม่ใช้ค่ะ แล้วก็เติมน้ำดื่มลงไป คนให้เข้ากัน




แล้วก็เอาตัวคีเฟอร์น้ำใส่ลงไปเลยค่ะ ไม่ต้องล้างน้ำเช่นเดียวกับคีเฟอร์นมนะคะ 




แล้วก็เอาผลไม้แห้งใส่ลงไปในโถ ตั้งทิ้งไว้ 24 หรือ 48 ชม. ก็จะได้น้ำคีเฟอร์ที่อร่อยและมีประโยชน์ รสชาติจะอมเปรี้ยว ซ่าส์ๆ มีแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการหมักอยู่นิดหน่อยค่ะ พอหมักครบเวลาแล้วจะเห็นว่าด้านบนของผิวน้ำจะมีฟองๆลอยอยู่ ไม่เสียนะคะ แต่เป็นฟองที่เกิดจากกระบวนการหมักค่ะ




เมื่อกรองเสร็จแล้ว น้ำที่ได้ก็นำไปแช่เย็นก่อน แล้วค่อยเอามาดื่ม จะเย็นชื่นใจค่ะ ส่วนตัวคีเฟอร์ เราก็เอาไปทำตามกระบวนการแบบเดิมค่ะ


วิธีเลี้ยงบัวหิมะ(คีเฟอร์นม)


นี่เป็นคีเฟอร์ที่ผึ้งหมักเอาไว้ในโถค่ะ พอหมักครบ 24 ชม.แล้ว ผึ้งก็จะเอานมที่ได้มากรองเอาเมล็ดคีเฟอร์ออก ผึ้งชอบใช้กระชอนปลากรองค่ะ เพราะตาข่ายถี่ดี ทำให้ตัวเล็กตัวน้อยไม่เล็ดลอดค่ะ เคยใช้กระชอนแสตนเลส ตัวเล็กตัวน้อยลอดลงไปอยู่ในโยเกิร์ตหมดเลย จริงๆตัวมันกินได้นะคะ แต่ผึ้งเสียดายและสงสารมันค่ะ เลยไม่อยากกินตัว กินแต่นมที่กรองก็ประโยชน์เยอะแล้วค่ะ



เมื่อกรองนมเสร็จ ก็จะเหลือตัวคีเฟอร์ หน้าตาแบบนี้ค่ะ เนื้อจะขาวๆหยุ่นๆน่ากินมากเลยค่ะ
จากนั้นก็เอาใส่กลับลงโถใบใหม่ที่ล้างสะอาดและตากแห้งเตรียมไว้แล้ว
ปล.ไม่ต้องล้างน้ำนะคะ เพราะตัวมันจะมีสารโพลีแซคคาไลน์เคลือบไว้ ถ้าล้างออกจะทำให้โตช้าค่ะ
หรือถ้าจะล้างก็นานๆล้างที และห้ามใช้น้ำประปาโดยเด็ดขาด เพราะคลอรีนจะไปทำลายเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียในคีเฟอร์ ทำให้มันตายค่ะ






แล้วก็เอานมใส่ลงไป 1 กล่อง ผึ้งชอบใช้นมโฟร์โมสต์ รสจืด แบบมีมันเนยนะคะ รสชาติโยเกิร์ตจะเปรี้ยวๆมันๆ อร่อยดีค่ะ ถ้าทำชีส ชีสที่ได้ก็อร่อยกว่าใช้นมตัวอื่นค่ะ น้องสาวผึ้งชอบกินชีสคีเฟอร์ทาขนมปังแล้วทาแยมทับ อร่อยสุดๆค่ะ มีประโยชน์ด้วย



พอเติมนมเสร็จแล้ว ก็ปิดฝาให้สนิทเพื่อกันมดและแมลงนะคะ โดยเฉพาะแมลงวัน แมลงหวี่ ถ้ามันไข่ลงไปเมื่อไหร่นะคะ ไม่เกิน 24 ชม.จะมีน้องหนอนดึ๊บๆอยู่ในนมแน่ๆค่ะ ล้างยังไงก็ไม่หมดหรอกค่ะ (ถึงหมดก็คงจะกินไม่ลงแล้วล่ะ) ยังไงก็ต้องระวังตรงนี้ให้ดีๆนะคะ
ปิดฝาตั้งไว้ 24 ชม. แล้วก็เอามากรองนม ทำซ้ำแบบเดิมทุกวันค่ะ
ส่วนนมที่ได้ก็เอามากิน หรือพอกหน้า พอกตัว ตามใจชอบค่ะ


วิธีเลี้ยงบัวหิมะ(คีเฟอร์)

วิธีเลี้ยงบัวหิมะ

ใช้นมสดรสจืด 1 กล่อง ประมาณ 250 c.c ไม่ต้องแช่ตู้เย็น
1.แช่บัวหิมะไว้ในนมสด 250 c.c นานประมาณ 24 ชั่วโมง บัวหิมะจะเปลี่ยนนมสดให้เป็นโยเกิร์ต

2.ใช้กระชอนกรองน้ำนมนั้นมาดื่ม (จะดื่มทันทีหรือแช่เย็นไว้ดื่มทีหลังก็สดชื่นดีค่ะ) ก่อนกรองนมให้ล้างมือให้สะอาด และภาชนะทุกอย่างต้องสะอาดค่ะ

3.ล้างบัวหิมะด้วยน้ำสะอาดเบาๆ จนสะอาด ด้วยน้ำกรองหรือน้ำดื่มบรรจุขวด (ห้ามใช้น้ำประปา เพราะคลอรีนจะทำให้คีเฟอร์ตายค่ะ จริงๆแล้วไม่ล้างเลยก็ได้ค่ะ เพราะเมืองนอกเค้าเลี้ยงไม่ล้างกัน โตเร็วมากค่ะ) แล้วเทคืนสู่ภาชนะเดิม แช่ด้วยนมสดใหม่ 250 c.c ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง

4.ให้เลี้ยงบัวหิมะในภาชนะแก้ว หรือพลาสติกเท่านั้น ห้ามใช้ภาชนะที่เป็นโลหะทุกชนิด(เพราะมีสภาพเป็นกรดค่ะ ทำให้ภาชนะขึ้นสนิม จะไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ เก็บในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ

5.บัวหิมะจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 18 วัน (จริงๆแล้วเค้าเพิ่มขึ้นทุกวันเลยค่ะ โตเร็วมากๆ ) ประมาณที่พอเหมาะคือ 1 ช้อนชา ต่อนม 1 กล่อง จะทำให้ได้โยเกิร์ตที่อร่อย ไม่เปรี้ยวเกินค่ะ

6.ภาชนะที่เลี้ยงต้องมีผ้าคลุมปิดปากขวดและเอาหนังยางรัดไว้ เพื่อให้อากาศระบาย และกันแมลงลงไปไข่ค่ะ หรือถ้าปิดฝาก็ให้ปิดหลวมๆค่ะ เพราะกระบวนการหมักจะเกิดแก๊ส อาจทำให้ขวดระเบิดได้ และอย่าลืมวางขวดไว้บนถาดที่รองน้ำไว้อีกทีนะคะ เพื่อกันมดขึ้นคีเฟอร์ค่ะ

บัวหิมะธิเบต(คีเฟอร์) ที่ผึ้งมี


การเลี้ยงบัวหิมะ(คีเฟอร์)ของผึ้ง ปกติผึ้งจะกรองนมตอน 10 โมงเช้าของทุกๆวัน ผึ้งจะมีคีเฟอร์นมอยู่ 3 โถ และคีเฟอร์น้ำอีก 1 โถ ที่ผึ้งต้องแยกคีเฟอร์นมเป็น 3 โถเพราะผึ้งแยกตามลักษณะของคีเฟอร์ที่ผึ้งเห็นและสังเกตได้ด้่วยตานะคะ ขอออกตัวก่อนว่าผึ้งไม่ใช่นักชีวะ และไม่เคยเรียนเกี่ยวกับจุลินทรีย์และแบคทีเรีย จึงไม่ทราบว่าทั้ง 3 แบบ มีจุลินทรีย์และแบคทีเรียต่างกันหรือไม่ยังไง แต่ผึ้งขอพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่ผึ้งเลี้ยงและเห็นว่ามันแตกต่างกันจริงๆทั้ง 3 แบบ ซึ่งถ้าเสริจในกูเกิ้ลก็เคยมีคนบอกไว้ว่าคีเฟอร์นั้นไม่ได้มีแค่สายพันธุ์เดียว ซึ่งผึ้งก็เชื่อตามนั้นจริงๆนะคะ(เชื่อเพราะเรามีในครอบครองทั้ง 3 แบบ) ผึ้งรักทุกสายพันธุ์เลยค่ะ

โถแรก เป็นคีเฟอร์ที่สั่งมาจากอเมริกา ผ่านทาง ebay ซึ่งสั่งมาพร้อมกับคีเฟอร์น้ำ มีใบ certificate รับรองการันตีคุณภาพ และลักษณะของคีเฟอร์ก็ไม่เหมือนกับของที่คนไทยเลี้ยง ลักษณะจะเหนียวแข็งกว่า และเป็นสีเหลืองอ่อนๆ ตัวบัวจะเกาะเป็นรูปยาวๆ อย่างที่เห็นในรูปเลยค่ะ เอานิ้วสัมผัสดูจะรู้สึกเลยว่าจะแข็งกว่าแบบอื่นๆ กรองนมง่ายมาก ในอีเบย์เค้าจะเรียกว่า Caucasian kefir




โถที่สอง เป็นคีเฟอร์ที่ได้จากคนไทย แต่ค่อนข้างมีคุณภาพคือจะเกาะกันเป็นก้อนๆ สีขาว กรองนมง่ายมาก แต่ตัวจะนิ่มๆ ไม่แข็งเหมือนคีเฟอร์ที่ผึ้งซื้อจากต่างประเทศ เวลาตักขึ้นมาจะมีน้ำเหนียวๆยืดๆๆเป็นเส้นๆเลยค่ะ ด้วยเหตุนี้เองบัวหิมะแบบนี้จึงเกาะกันเป็นก้อนได้ดีค่ะ



โถที่สาม เป็นคีเฟอร์ที่ได้จากคนไทยเช่นกัน แต่ตัวค่อนข้างเล็กและไม่เกาะกัน ไม่ว่าจะเลี้ยงยังไงก็ไม่เกาะกัน ในอีเบย์ก็มีขายแบบนี้ค่ะ เค้าจะเรียกว่า Russian kefir ผึ้งจะไม่ค่อยชอบเพราะกรองนมยาก เวลากรองนมไม่ค่อยผ่านกระชอนลงไป ต้องใช้ช้อนช่วยคนเบาๆนมถึงจะลงไป รูปลักษณะภายนอก ดูไม่ค่อยเป็นเม็ดๆเหมือนแบบโถแรก และโถสองเลยค่ะ แต่โยเกิร์ตที่ได้ก็มีคุณภาพเหมือนกันนะคะ



สำหรับคีเฟอร์ที่ผึ้งแจกอยู่ทุกวันนี้ ผึ้งจะตักโถที่สองและโถที่สามรวมกันให้ค่ะ คือให้ทั้งแบบตัวเล็กและแบบตัวใหญ่ที่เกาะกันเป็นก้อน เพื่อให้คนที่ได้รับมีทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ค่ะ ส่วนโถแรกที่สั่งจากอีเบย์(แพงมากกก) ผึ้งไม่แจกค่ะ กะว่าอนาคตอาจเอามาพัฒนาสูตรทำเป็นผลิตภัณฑ์ เพราะเรามีใบ certificate ที่เค้ารับรองคีเฟอร์ตัวนี้มาให้ จะได้ดูน่าเชื่อถือหน่อย

ส่วนคีเฟอร์น้ำ อันนี้ก็สั่งจาก ebay ชอบมากค่ะ ตัวเป็นเม็ดๆก้อนๆ ใสๆ เลี้ยงในน้ำใส่น้ำตาลทรายแดง ใส่ผลไม้แห้งลงไปสองชิ้น ทิ้งไว้ 1-2 วันก็จะได้น้ำคีเฟอร์ที่อร่อย รสชาติจะอมเปรี้ยว ซ่าส์ๆ มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ เอาไว้กินสลับกับโยเกิร์ตคีเฟอร์ค่ะ จะได้ไม่เบื่อ ตัวนี้มีใบ certificate รับรองเช่นเดียวกันค่ะ